Squier ในตอนนี้
ปัจจุบัน Squier สามารถสร้างแบรนด์จนแข็งแรงและเป็นที่ยอมรับจากบรรดานักดนตรีในวงกว้าง ถึงแม้หลายคน จะมองว่าเป็นแบรนด์ระดับรองของ Fender แต่บ่อยครั้งที่เราจะเห็นว่าคุณภาพของสินค้าที่ออกมามีคุณภาพสูง เกินกว่าภาพที่อยู่ในใจเรามากนัก และ Fender เองก็ภาคภูมิใจกับความเป็น Squier อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ Squier ยังได้พยายามพัฒนาภาพพจน์ของตัวเองด้วยการให้ความสำคัญและจริงจังกับคุณภาพการผลิต ให้อยู่ในระดับสูงทุกตัว ทุกวันนี้ Squier เป็นแบรนด์ที่ยืนหยัดได้ด้วยตัวเองแล้ว จึงเริ่มมีการผลิตเครื่องดนตรี ที่มีดีไซน์ซับซ้อนขึ้น มีแนวความคิดที่สร้างสรรค์มากขึ้น มีการผลิตแอมป์ ระบบ P.A. ภายใต้ตรา Squier อย่างเต็มภาคภูมิ ตัวอย่างกีตาร์รุ่นที่โดดเด่นอย่างเช่น Venus Model ที่ได้รับอิทธิพลจากกีตาร์คัสตอมช็อพที่ Squier ทำให้กับเจ้าแม่กรันจ์ Courtney Love หรืออย่าง Jagmaster ที่เป็นการยืมแบบมาจาก Fender Jaguar ผสมกับ Jazzmaster ที่นำมาโมดิฟายน์ใหม่ให้เป็นปิ้กอัพฮัมบักเกอร์ หรือจะเป็นรุ่น Super Sonic Model ที่ได้รับอิทธิพลจาก Fender Jaguar ที่ Jimi Hendrix เคยเล่นโดยกลับหัว และอีกหลายต่อหลายรุ่น ที่ล้วนแต่มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง
และที่พิเศษคือในปี 2003 นี้ Squier ได้แนะนำรุ่น Special Limited Edition ที่ผลิตออกมาจำนวนจำกัด เท่านั้น ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า "สเปเชี่ยล" แสดงว่าต้องมีอะไรเด็ดๆแน่นอน! ในรุ่นนี้ Squier ตั้งใจทำออกมาโดย ใช้สเป็คกีตาร์ Fender อเมริกาเป็นแม่แบบ อย่างในรุ่น Standard Strat เป็นตัวอย่าง ซึ่งโดยทั่วไปรุ่นนี้จะใช้ไม้ Agathis ทำบอดี้แต่ถ้าเป็นรุ่นสเปเชี่ยลจะใช้ "ไม้อัลเดอร์" นอกจากนี้รายละเอียดอย่างอื่นก็พิเศษขึ้นตามไปด้วย เช่น พวกปิ้กการ์ดหรือชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์ รวมไปถึงการทำอินเลย์จุดบนเฟร็ตบอร์ดด้วย เรียกว่าพิเศษกันทุกกระเบียดนิ้ว เลยทีเดียว
มีการทำสีที่แตกต่างและโดดเด่นจากเดิมๆไม่ว่าจะเป็น "ซิลเวอร์เบิร์ส" สีเงินที่มีการไล่โทนสีให้เข้มขึ้นอย่างประณีต พร้อมปิ้กการ์ดมุกสีขาว (ซึ่งถ้าเป็นกีตาร์ก็อปปี้อื่นๆทั่วไปมักจะใช้ปิ้กการ์ดพลาสติกธรรมดา) นอกจากนี้ยังมีบอดี้สี "เชอร์รี่ ซันเบิร์ส" ตัดกับปิ้กการ์ดสี "กรีน มินท์" และยังมีรุ่นบอดี้สีขาวแต่เป็นขาวแบบวินเทจที่เรียกว่า "วินเทจ ไวท์" ใช้ปิ้กการ์ด มุกสีแดงตัดกับสีของบอดี้ได้อย่างโดดเด่นสะดุดตา
ทั้งสามสีดังกล่าวใช้ฮาร์ดแวร์โครเมี่ยม ส่วนอีกสีหนึ่งคือสีน้ำเงิน "อิเล็กทริก บลู" และสีขาว "โพลาร์ ไวท์" จะพิเศษ ตรงที่มีการลงสีที่หัวกีตาร์ให้เป็นสีเดียวกับบอดี้ด้วย ตัวนี้จะใช้ปิ้กการ์ดและฮาร์ดแวร์สีดำ ทำให้ดูโมเดิร์นแต่ยังคงแฝง ความสุขุมไว้ในที
ทุกตัวที่กล่าวมานี้มีการทำอินเลย์จุดบนเฟร็ตบอร์ดด้วยมุกขาว ถ้าสังเกตที่หัวจะเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงโลโกเล็กน้อย ตรงคำว่า "by Fender" ที่เคยเป็นตัวหนังสือธรรมดาก็กลายเป็นโลโก Fender ที่เห็นแต่ไกลก็รู้ว่าเป็น Fender ทันที เนื้องานที่ออกมาสะท้อนให้เห็นถึงความประณีตละเอียดอ่อนที่ Squier ไม่ยอมปล่อยให้พลาดเลย เห็นไหม
บอกแล้วว่า "ไม่ธรรมดา" เพราะฉะนั้นรีบเป็นเจ้าของเสียก่อนที่จะสายเกินไป
วันนี้ Squier มีอายุครบ 21 ปีแล้ว ยังคงมีการผลิตเครื่องดนตรีโมเดลใหม่ๆออกมาอย่างสม่ำเสมอและได้รับความนิยม มากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับนักกีตาร์หรือมือเบสมือใหม่หรือผู้ที่มีงบประมาณค่อนข้างจำกัด
เมื่อได้รู้อย่างนี้ คุณจะยังหันไปมองกีตาร์ก็อปปี้อื่นอีกทำไม ในเมื่อ Fender มี Squier ที่ให้คุณได้ครบสมบูรณ์ ทุกอย่างอยู่แล้ว!